top of page

HISTORY

          การก่อตั้งโรงเรียนอิลเวอร์มอร์นี

          โรงเรียนแห่งนี้เริ่มต้นจากโฮมสคูลเล็กๆที่ประกอบไปด้วยอิโซลต์ เซเออร์ เจมส์ สจ๊วต เว็บสเตอร์ บุธและแชดวิก บุธ

 

          สัญลักษณ์ของบ้านทั้งสี่เกิดจากการที่อิโซลต์เล่าเรื่องเกี่ยวกับฮอกวอตส์ให้เว็บสเตอร์และแชดวิกฟัง เด็กทั้งสองอยากจะเข้าโรงเรียนมาก และถามบ่อยๆว่าทำไมทุกคนถึงไม่กลับไปที่ไอร์แลนด์เพื่อจะได้รอรับจดหมายเชิญของโรงเรียน ไอโซลต์ไม่อยากจะให้เด็กๆหวาดกลัวเรื่องราวในอดีตของเธอ แต่เธอสัญญากับพวกเขาว่าเมื่อเด็กๆอายุครบสิบเอ็ดปี เธอจะหาไม้กายสิทธิ์ให้พวกเขาด้วยวิธีใดวิธี และพวกเขาจะเริ่มก่อตั้งโรงเรียนสอนเวทมนตร์ขึ้นที่กระท่อมหลังนี้
 

          ไอเดียนี้ทำให้แชดวิกและเว็บสเตอร์จินตนาการไปไกล ไอเดียของเด็กทั้งสองที่ว่าโรงเรียนเวทมนตร์ควรจะเป็นอย่างไรนั้นได้เค้าโครงมาจากฮอกวอตส์เกือบทั้งหมด ดังนั้นพวกเขาจึงยืนกรานว่าโรงเรียนควรมีสี่บ้าน ความคิดที่จะตั้งชื่อบ้านตามชื่อของพวกเขาซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งนั้นถูกเก็บเข้ากรุอย่างรวดเร็ว เพราะเว็บสเตอร์รู้สึกว่าบ้านที่ชื่อ “เว็บสเตอร์ บูธ” นั้นไม่มีโอกาสจะชนะอะไรเลยสักอย่าง

 

          เพื่อแทนที่ไอเดียนี้ พวกเขาจึงเลือกสัตว์เวทมนตร์ที่พวกเขาชอบที่สุด แชดวิกซึ่งเป็นเด็กชายที่ฉลาดแต่มักจะเจ้าอารมณ์อยู่บ่อยๆ เขาเลือกธันเดอร์เบิร์ดที่สามารถสร้างพายุได้เมื่อบิน ส่วนเว็บสเตอร์ที่ช่างถกเถียงแต่จงรักภักดีอย่างแนวแน่นั้นเลือกแวมปัส ซึ่งเป็นสัตว์เวทที่คล้ายเสือดำ เป็นสัตว์ที่รวดเร็ว แข็งแรง และแทบจะฆ่าให้ตายไม่ได้ ส่วนอิโซลต์เลือกงูยักษ์มีเขาที่เธอยังคงแวะไปเยี่ยมเยียนและรู้สึกว่ามีความผูกพันกันอย่างแปลกๆ


          ตอนที่ถูกถามว่าสัตว์ที่ชอบที่สุดคืออะไร เจมส์ตอบไม่ได้ โนเมจเพียงคนเดียวของครอบครัวไม่สามารถที่จะเลือกสัตว์เวทที่คนอื่นๆเริ่มจะรู้จักดี ในที่สุดเจมส์ก็เลือกพัควัดจิ เพราะเรื่องเกี่ยวกับมันที่ภรรยาของเขาเล่าให้ฟังนั้นทำให้เขาหัวเราะทุกครั้ง
 

          และแล้วบ้านทั้งสี่ของอิลเวอร์มอร์นีก็ถูกสร้างขึ้น และระหว่างที่ผู้สร้างทั้งสี่ยังไม่รู้ อุปนิสัยหลายอย่างของพวกเขาก็ถูกซึมซับไปสู่บ้านที่พวกเขาตั้งชื่อกันขึ้นมาเล่นๆนี้

 

       เมื่อเว็บสเตอร์อายุครบสิบเอ็ดปี  อิโซลต์ได้มอบไม้กสยสิทธิ์ที่เธอกับเจมส์สร้างขึ้นให้กับเขา ชื่อเสียงของโรงเรียนโฮมสคูลเล็กๆของครอบครัวก็แพร่กระจายออกไป มีเด็กชายผู้มีพลังเวทย์สองคนจากเผ่าแวมพาโนคมาเข้าร่วมพร้อมกับแม่หนึ่งคนและลูกสาวสองคนจากแนร์ราแกนเซท ทุกคนสนใจที่จะเรียนรู้เทคนิคการทำไม้กายสิทธิ์เพื่อแลกเปลี่ยนกับการแบ่งปันความรู้เวทมนตร์ของพวกเขา ทุกคนได้รับไม้กายสิทธิ์จากการประดิษฐ์ของอิโซลต์และเจมส์  เธอกับเจมส์เรียนรู้ที่จะใช้แกนแบบอื่นๆอีกหลายอย่าง เช่นขนแวมปัส เอ็นหัวใจสนัลลีแกสเตอร์ และเขากวางแจ็คคาโลพ

          เมื่อถึงปี ค.ศ. 1634 โรงเรียนโฮมสคูลแห่งนี้ก็เติบใหญ่เกินความฝันที่พิสดารที่สุดของครอบครัวของอิโซลต์ บ้านขยายใหญ่ขึ้นในทุกปีที่ผ่านไป มีนักเรียนเดินทางมามากขึ้น และแม้ว่าโรงเรียนจะยังมีขนาดเล็ก แต่ก็มีเด็กๆมากพอที่จะทำให้ความฝันของเว็บสเตอร์ที่จะจัดงานแข่งขันระหว่างบ้านเป็นจริงขึ้นมาได้ อย่างไรก็ดี เนื่องจากชื่อเสียงของโรงเรียนยังไม่ขยายไปเกินกว่าเผ่าชนพื้นเมืองอเมริกันในท้องถิ่นและนักตั้งถิ่นฐานชาวยุโรป จึงยังไม่มีนักเรียนกินนอนที่นี่ คนที่ค้างคืนอยู่ที่อิลเวอร์เมอร์นีมีเพียงอิโซลต์ เจมส์ แชดวิก เว็บสเตอร์ และเด็กหญิงฝาแฝดที่อิโซลต์ได้ให้กำเนิด ซึ่งก็คือมาร์ธา ซึ่งตั้งชื่อตามแม่ที่เสียชีวิตไปแล้วของเจมส์ และริโอนัค ตั้งตามชื่อแม่ของอิโซลต์

 

         

          การเติบโตของโรงเรียน

          ชื่อเสียงของอิลเวอร์มอร์นีแพร่หลายออกไปอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีต่อมา บ้านหินแกรนิตก็แปรเปลี่ยนเป็นปราสาท มีการรับสมัครคุณครูเพิ่มเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น ตอนนี้ลูกแม่มดพ่อมดจากทั่วอเมริกาเหนือถูกส่งมาเล่าเรียนที่นี่และโรงเรียนก็มีนักเรียนกินนอนแล้ว เมื่อถึงศตวรรษที่สิบเก้า อิลเวอร์มอร์นีก็มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติเหมือนเช่นในปัจจุบัน

 

           อิโซลต์และเจมส์ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นอาจารย์ใหญ่ร่วมกันเป็นเวลาอีกหลายปี ทั้งสองเป็นที่รักของนักเรียนหลายรุ่นเปรียบเหมือนกับเป็นสมาชิกครอบครัวคนหนึ่งเลยทีเดียว แชดวิกกลายเป็นพ่อมดที่ประสบความสำเร็จและเดินทางไปทั่ว นอกจากนี้เขายังแต่งหนังสือชื่อมนตร์ของแชดวิกเล่มที่ 1 – 7 ซึ่งได้กลายเป็นตำราเรียนมาตรฐานของอิลเวอร์เมอร์นีในเวลาต่อมา เขาแต่งงานกับหมอชาวเม็กซิกันที่ชื่อโจเซฟิน่า คัลเดอรอนและครอบครัวคัลเดอรอน-บูธก็ยังคงเป็นครอบครัวนักเวทย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของอเมริกาในปัจจุบัน

 

          ก่อนการสถาปนา MACUSA (สภาเวทมนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา) โลกใหม่ยังขาดผู้รักษากฎหมายของโลกเวทมนตร์ เว็บสเตอร์ บูธได้กลายเป็นสิ่งที่ปัจจุบันเรียกกันว่า ‘มือปราบมารรับจ้าง’ ระหว่างที่เขาเนรเทศพ่อมดมืดตัวร้ายกลับลอนดอนนั้น เว็บสเตอร์ก็พบและตกหลุมรักแม่มดสาวชาวสก๊อตที่ทำงานอยู่ในกระทรวงเวทมนตร์ ดังนั้นครอบครัวบูธจึงเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดของตน ทายาทของเว็บสเตอร์จะได้เรียนหนังสือที่ฮอกวอตส์ในอนาคต

 

          มาร์ธาลูกสาวฝาแฝดคนโตของเจมส์กับอิโซลต์นั้นเป็นสควิบ แม้ว่าจะได้รับความรักอย่างล้นเหลือจากพ่อแม่และพี่ชายบุญธรรมของเธอ แต่มาร์ธาก็เจ็บปวดใจที่จะเติบโตที่อิลเวอร์มอร์นีเพราะเธอไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ ในที่สุดเธอก็แต่งงานกับพี่ของเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นคนธรรมดาจากเผ่าโพคอมทัค แล้วใช้ชีวิตเป็นโนเมจนับตั้งแต่นั้น ริโอนัค ลูกสาวฝาแฝดคนเล็กของเจมส์กับอิโซลต์เป็นครูสอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดที่อิลเวอร์มอร์นีเป็นเวลาหลายปี

       อิโซลต์และเจมส์มีอายุยืนเกิน 100 ปี พวกเขาได้เห็นกระท่อมอิลเวอร์มอร์นีแปรเปลี่ยนเป็นปราสาทหินแกรนิต และพวกเขาก็จบชีวิตลงโดยที่รู้ว่าตอนนี้โรงเรียนของพวกเขามีชื่อเสียงมากเสียจนครอบครัวนักเวททั่วอเมริกาเหนือปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้ลูกของตนเข้าเรียนที่นี่ พวกเขาจ้างบุคลากร สร้างหอพักนักเรียน ซ่อนโรงเรียนจากสายตาของคนธรรมดาด้วยมนต์อันชาญฉลาด สรุปแล้วก็คือ เด็กหญิงผู้ฝันจะเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ได้มีส่วนช่วยก่อตั้งสถาบันที่เทียบเท่ากันในอเมริกาเหนือ

          อิลเวอร์มอร์นีในปัจจุบัน

           

          เหมือนกับที่อาจจะคาดหวังได้จากโรงเรียนที่มีโนเมจเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง อิลเวอร์มอร์นีมีชื่อเสียงในด้านความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุดและแบ่งชนชั้นน้อยที่สุดแห่งหนึ่งในบรรดาโรงเรียนเวทมนตร์อันยิ่งใหญ่ทุกแห่ง

 

          รูปสลักหินอ่อนของอิโซลต์และเจมส์ตั้งตระหง่านอยู่ข้างประตูหน้าปราสาทอิลเวอร์มอร์นี ประตูหน้าเปิดเข้าสู่ห้องกลมที่มีโดมหลังคาแก้วและมีระเบียงไม้ล้อมรอบอยู่บนชั้นสอง ในห้องนี้ไม่มีอะไรอยู่เลยนอกจากไม้แกะสลักขนาดยักษ์สี่ชิ้นที่เป็นตัวแทนของบ้านต่างๆ  ฮอร์นเซอเพนท์ แวมปัส ธันเดอร์เบิร์ด และพัควัดจิ

OFFICIAL : End Titles - Fantastic Beasts and Where To Find Them - Fantastic Beasts Soundtrack

bottom of page